แนวทางการปฏิบัติ และ สรุปรายละเอียด
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
เอกสารฉบับนี้สรุปเนื้อหาจาก 1) พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 (พรบ.ความผิดคอมพิวเตอร์ 2550) และ 2) ประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เรื่องหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลทางจราจรทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ (ประกาศ ICT) ซึ่งคัดเฉพาะส่วนที่มีผลบังคับใช้กับผู้ดูแลและผู้ใช้งานระบบและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของคณะวิทยาศาสตร์ทุกท่าน เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็น ส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบ คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือ ใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือ ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิด ความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรม อันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ 
 
1. คำแนะนำวิธีปฏิบัติ ตาม พรบ. ความผิดคอมพิวเตอร์ 2550
- ไม่ตัดต่อเผยแพร่ภาพตัดต่อของผู้อื่น ที่ทำให้เขาเสียหายหรือเสียชื่อเสียง
 - ก่อนดาวโหลดโปรแกรมหรือข้อมูลจากเว็บไซต์ ควรอ่านเงื่อนไขให้ละเอียดเสียก่อน
 - ไม่ฟอร์เวิร์ดอีเมล์ หรือ Clip ภาพลามกอนาจาร หรือข้อความไม่เหมาะสม
 - ไม่เผยแพร่ Spam mail หรือไวรัส
 - ไม่เปิดเผยมาตรการระบบคอมพิวเตอร์ให้ผู้อื่นล่วงรู้
 - ไม่ขโมยข้อมูลระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
 - ระวังการ Chat กับคนแปลกหน้า อย่าหลงเชื่อเขาง่ายๆ
 - อย่าลืม ลงโปรแกรมป้องกันไวรัสและสปายแวร์
 - ไม่แฮกระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
 - ไม่ควรบันทึก Password ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์และควรเปลี่ยน Password ทุกๆ 3 เดือน
 - ไม่แอบดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
 - ไม่นำเข้าข้อมูลหรือภาพลามก อนาจาร เข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์
 
2. สรุป เนื้อหาพรบ.ความผิดคอมพิวเตอร์ 2550 และประกาศ ICT
การกระทำที่ถือว่าเป็นความผิดตามพรบ. (สำหรับผู้ใช้งาน)
- การล่วงล้ำเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ (เช่นหน้าเวบ หรือ directory/folder) ของผู้อื่นที่มีมาตรการป้องกันไว้โดยเฉพาะ รวมถึงหากผู้ที่ทราบมาตรการการป้องกันนำมาตรการที่ล่วงรู้มาไปเผยแพร่
 - การดักจับข้อมูลของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการสื่อสาร
 - การทำลาย แก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลของผู้อื่นโดยมิชอบ
 - การกระทำการใดๆเพื่อทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ หรือถูกรบกวน
 - การส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือ Email ที่ปกปิด/ปลอมแปลงที่มาของข้อมูล (spam mail) ที่เป็นการรบกวนผู้อื่น
 - การนำข้อมูลไม่เหมาะสมเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนและประเทศ ตัวอย่างข้อมูลไม่เหมาะสมได้แก่: ข้อมูลปลอม, ข้อมูลอันเป็นเท็จ, ข้อมูลอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ, และภาพลามก
 - การเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว
 - การยอมให้ผู้อื่นบรรจุข้อมูลที่ไม่เหมาะสม ลงบนระบบคอมพิวเตอร์ที่ตนรับผิดชอบ
 - การสร้าง ตัดต่อ ดัดแปลงภาพของผู้อื่น ที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย หรืออับอาย
 - การเผยแพร่ software ที่เป็นเครื่องมือในการทำผิดตามข้ออื่นๆ
 
ข้อปฏิบัติ สำหรับผู้ดูแลระบบ
- ไม่สนับสนุนหรือยินยอมให้ผู้ใช้บริการนำเข้า หรือเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสมเขาไปในระบบคอมพิวเตอร์
 - ระงับการเผยแพร่เว็บไซต์ที่มีข้อมูลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี
 - ให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการสืบสวน สอบสวน หาตัวผู้กระทำผิด
 - ผู้ให้บริการจะต้องเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบไว้อย่างน้อย 90 วัน
 - ข้อมูลที่จัดเก็บจะต้องได้รับการปกป้องให้มีความน่าเชื่อถือ และไม่ถูกเปลี่ยนแปลงได้จากผู้ใช้และผู้ดูแลระบบ การเข้าถึงข้อมูล (แต่ห้ามเปลี่ยนแปลง) จะกระทำได้โดยผู้ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น
 - ข้อมูลที่เก็บนั้น จะต้องครอบคลุมการเข้าใช้งานเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในทุกรูปแบบ (เช่นทั้ง wired และ wireless) และจะต้องสามารถระบุตัวผู้ใช้บริการเป็นรายบุคคลได้จริง
 - ผู้ให้บริการต้องตั้งเวลาของอุปกรณ์ทุกชนิดให้ตรงกับสากล โดยผิดพลาดไม่เกิน 10 มิลลิวินาที
 - ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่ผู้ให้บริการต้องจัดเก็บคือ
	
- การเข้าถึงระบบเครือข่าย: User ID, วันเวลาการเข้าใช้งาน, IP Address ของเครื่องที่ใช้, และหมายเลขสายที่เรียกเข้า (เช่น กรณี Modem หรือ ADSL)
 - E-Mail: Message ID, Email ของผู้รับและผู้ส่ง, วันเวลาการติดต่อและใช้งาน, IP Address ของเครื่องที่เข้ามาใช้งาน, User ID ของผู้ใช้งาน (ถ้ามี), POP3/IMAP4 Log
 - File Transfer/File Sharing: วันเวลาการเข้าใช้งาน, IP Address ของเครื่องผู้ใช้, User ID (ถ้ามี), path และ file name
 - Web Server: วันเวลาการติดต่อ, IP Address ของเครื่องผู้ใช้, คำสั่งการใช้งานเวบ, URI (หน้าเวบที่เรียกใช้)
 - Instant Messaging (เช่น MSN): วันเวลาการติดต่อ, IP Address ของผู้ใช้
 
 
บทกำหนดโทษ
			ฐานความผิด | 
			
			โทษจำคุก | 
			
			โทษปรับ | 
		
| มาตรา ๕ เข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีการป้องกันโดยมิชอบ | ไม่เกิน ๖ เดือน | ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๖ ล่วงรู้และเผยแพร่มาตรการป้องกัน | ไม่เกิน ๑ ปี | ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๗ เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีการป้องกันโดยมิชอบ | ไม่เกิน ๒ ปี | ไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๘ การดักข้อมูลคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ | ไม่เกิน ๓ ปี | ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๙ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ | ไม่เกิน ๕ ปี | ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๑๐ การรบกวนระบบคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นโดยมิชอบ | ไม่เกิน ๕ ปี | ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๑๑ ส่งข้อมูล หรือ E-Mail ที่ปกปิดแหล่งที่มา และเป็นการรบกวนผู้อื่น | ไม่เกิน ๕ ปี | ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๑๒ หากการกระทำ ข้อ ๙ และ ข้อ ๑๐ (๑) ก่อความเสียหายแก่ประชาชน ทั้งทันทีและภายหลัง (๒) กระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยประเทศ/เศรษฐกิจถ้าเป็นเหตุให้เสียชีวิต  | 
			ไม่เกิน ๑๐ ปี ๓ ถึง ๑๕ ปี ๑๐ ถึง ๒๐ ปี  | 
			ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ๖๐,๐๐๐ – ๓๐๐,๐๐๐ บาท ไม่มี  | 
		
| มาตรา ๑๓ การจำหน่าย/เผยแพร่ Software ที่ใช้กระทำผิด | ไม่เกิน ๑ ปี | ไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๑๔ เผยแพร่เนื้อหาอันไม่เหมาะสม | ไม่เกิน ๕ ปี | ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๑๕ ISP ที่ยอมให้เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม | ไม่เกิน ๕ ปี | ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท | 
| มาตรา ๑๖ การตัดต่อภาพผู้อื่น และทำให้เสียหาย (ถ้าสุจริต หรือไม่เสียหาย ไม่มีความผิด) | ไม่เกิน ๓ ปี | ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท | 
ที่มา it.sci.ubu.ac.th